พัฒนาสมาธิ วิธีช่วยจัดการในเด็กสมาธิสั้น

 

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าเจ้าตัวเล็กเติบโตท่ามกลางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแท็ปแลป สมาร์ทโฟนทั้งหมด ที่คุณพ่อคุณแม่ใช้ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงลูกสมัยนี้เลี้ยงด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ ลูกเติบโตกับธรรมชาติน้อยลง เด็กสมัยใหม่โดยฉพาะเด็กเจน Z เด็กที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยี  โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เรียกได้ว่าพ่อแม่ผู้ปกครองมีไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เล่น เนื่องจากทำงานหนักและไม่ค่อยมีเวลาในการเลี้ยงดู แล้วเจ้าความเร็วของเทคโนโลยีที่ไม่มีการหยุดยั้งนี้แหละเป็นสาเหตุของโรคสมาธิสั้นในเด็ก เพราะสมาร์ทโฟนมีส่วนกระตุ้นให้เด็กเป็นสมาธิสั้น  เนื่องจากเมื่อเล่นไปนาน ๆ อาจส่งผลให้เด็กขาดสมาธิและการควบคุมตนเอง อยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น และหากเด็กเป็นโรคสมาธิสั้นอยู่ก่อนแล้วอาการจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น อาทิ ใจร้อน วู่วาม อารมณ์ฉุนเฉียว ขาดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่รู้จักการรอคอย เป็นต้น

 

ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองควรมองหากิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กและสร้างความอบอุ่นภายในครอบครัว ได้แก่ การเล่นกีฬา, ดนตรี และการฝึกทักษะทางด้านต่างๆ เช่น การเรียนรู้พัฒนาสมาธิ และพัฒนาตามทักษะต่างๆ ทักษะด้านการฟัง,   ทักษะด้านการมอง, ทักษะด้านการควบคุมการเคลื่อนไหวและประสาทสัมผัส  ทักษะเหล่านี้ฝึกได้ แต่ต้องฝึกอย่างถูกวิธี ผลคือ สมาธิดีขึ้น

 

สถาบัน BrainFit Studio มีหลักสูตรที่ช่วยพัฒนาสมาธิ และจดจ่อ กับสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น พร้อมเรียนรู้และ รับมือกับสิ่งรอบตัว ได้ไวและดียิ่งขึ้น ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานและผ่านการวิจัยทางประสาทวิทยามาแล้วกว่า 30 ปี